หลักการและเหตุผล
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบเอ็ด พ.ศ. 2555 - 2559 เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่ชี้นำทิศทางการพัฒนาประเทศระยะกลาง เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ระยะยาว
กำหนดไว้ว่า
“ คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีมิตรไมตรีบนวิถีชีวิตแห่งความพอเพียง ยึดมั่นในวัฒนธรรมประชาธิปไตย และหลักธรรมอภิบาล การบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่ทั่วถึง มีคุณภาพ สังคมมีความปลอดภัยและมั่นคง อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดี เกื้อกูลและเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ระบบการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน อยู่บนฐานทางเศรษฐกิจที่พึ่งตนเอง และแข่งขันได้ในเวทีโลก สามารถอยู่ในประชาคมภูมิภาคและโลกได้อย่างมีศักดิ์ศรี”
หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คือ การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งสร้างกระแสสังคมให้การเรียนรู้เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน มีนิสัยใฝ่รู้ รักการอ่านตั้งแต่วัยเด็ก และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันของคนต่างวัย ควบคู่กับการส่งเสริมให้องค์กร กลุ่มบุคคล ชุมชน ประชาชน และสื่อทุกประเภทเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย รวมถึงส่งเสริมการศึกษาทางเลือกที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
ที่มีคุณภาพและสนับสนุนปัจจัยที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ควรมีการสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ตลอดจนพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชน ที่มีศักยภาพใน
การพัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน กำหนดมาตรฐาน ขั้นพื้นฐานของคุณภาพสินค้าและบริการ ที่เป็นการป้องกันสินค้าและบริการนำเข้าที่ไม่ได้คุณภาพ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
ในแผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่สิบเอ็ด พ.ศ. 2555 –
2559 ได้มีการพิจารณาถึงคุณภาพ การจัดการศึกษา กำหนดกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินงาน โดยกล่าวถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการศึกษา พัฒนาความเป็นสากลของการศึกษา เพื่อรองรับ การเป็นประชาคมอาเซียน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศภายใต้กระแสโลกอภิวัตน์ ขณะเดียวกันสามารถอยู่ร่วมกันกับพลโลกอย่างสันติสุข มีการพึ่งพาอาศัยและเกื้อกูลกัน พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้และจัดกิจกรรมเสริมทักษะพัฒนาผู้เรียนในรูปแบบที่หลากหลาย โดยมุ่งเน้น
ให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และมีทักษะวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ
หลักสูตรการศึกษาระดับขั้นการศึกษาพื้นฐาน
มีการกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศที่เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐานซึ่งนักเรียนทุกคนต้องได้เรียนรู้
เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการฟัง พูด
อ่าน เขียน เข้าใจความแตกต่างของภาษา การคิด สังคม
เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง และวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และสามารถสื่อสารกับชาวชาติได้ รวมทั้งช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงองค์ความรู้ต่าง
ๆ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนได้ง่ายและกว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม
แม้หลักสูตรจะกำหนดบังคับให้ทุกคนเรียนภาษาอังกฤษอยู่ในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แต่ก็ยังมีคนไทยจำนวนมากที่พูดภาษาอังกฤษ
หรือไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษไม่ได้ ทั้ง ๆ
ที่รวมเวลาในการเรียนภาษาอังกฤษแล้ว
ส่วนใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 10 ปี หรือแม้แต่ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี
หรือแม้กระทั่งปริญญาโทยังมีจำนวนไม่น้อย ที่ไม่สามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้
นอกจากนี้จากแผนพัฒนาการศึกษา
ฉบับที่สิบเอ็ด พ.ศ.
2555 - 2559 ได้กล่าวถึงปัญหาที่ผ่านมาว่า คุณภาพการศึกษายังไม่เป็นที่พอใจของสังคม เด็กวัยเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในวิชาหลักของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (O-Net) ได้แก่ ภาษาอังกฤษ
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ที่มีค่าเฉลี่ยตํ่า ผลการสอบ ในทุกระดับชั้นของวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์
มีคะแนนต่ำกว่ามาตรฐาน ตามตารางข้างล่างนี้
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้นำอาเซียน
ภาษาอังกฤษจึงได้ทวีความสำคัญและมีความจำเป็น มากขึ้น จากกฎบัตรอาเซียนข้อ 34 บัญญัติว่า “The working language of ASEAN
shall be English” “ภาษาที่ใช้ในการทำงานของอาเซียน คือ ภาษาอังกฤษ ” จากการศึกษาพบว่าความเชี่ยวชาญในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษในเยาวชนไทย มีแนวโน้มว่ามีคุณภาพต่ำกว่าประเทศ
เพื่อนบ้านและประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน
ดังนั้นสถานศึกษาจึงควรมีการวางแผนและเตรียมพร้อมด้านภาษาอังกฤษให้เยาวชนไทยให้มีคุณภาพตามที่คาดหวัง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาความรู้ในสังคมอาเซียนและเวทีโลกต่อไป
จากเหตุผลดังกล่าว จึงได้เกิดวิธีการที่ง่าย ความหลากหลาย
และเหมาะสมกับนักเรียนเป็นรายบุคคล
สามารถศึกษาได้ตลอดเวลาโดยผ่านสื่อผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และมีแบบแผนการติดตาม
ตลอดจนประเมินผลสัมฤทธิ์ทั้งจากตัวผู้เรียนและครูผู้สอนโดยตรง
ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับลิขสิทธิ์จากมหาวิทยาลัยแคมบริดส์ ประเทศอังกฤษ
และเป็นที่ยอมรับจากสถานศึกษาชั้นนำของประเทศไทย
เช่น โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ
โรงเรียนราชวินิตบางเขน
โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี 4) โรงเรียนมัธยมวัดมกุฎกษัตริย์ ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น